ประวัติ และความเป็นมาของนิทานอีสป

นิทานอีสป หนึ่งในนิทานสอนใจที่ครองใจคนทั้งโลก โดยที่ชื่อดังกล่าวมาจากชื่อจริงๆ ของชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า อีสป เป็นชายที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายพันปีก่อน เขาผู้นั้นเป็นทาสชาวกรีก ที่อยู่ในช่วง 560 – 620 ปี ก่อนคริสต์ศักราช โดยที่ได้อาศัยอยู่ภายในเมืองซาร์ดิส ประเทศกรีก เขาเป็นชายพิการ ที่มีรูปร่าง หน้าตาที่อัปลักษณ์ แต่ถึงเขาจะมีร่างกายที่ไม่ปกติ แต่กลับมีจิตใจที่งดงาม และบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก อีสปทำงานเป็นทาสอยู่บนเกาะซามอส กับนายทาสของเขาที่มีชื่อว่า เอียดมอน โดยที่ อีสป ถือว่าเป็นคนที่มีทักษะในด้ายการเล่นนิทานผู้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในท้องถิ่นที่เขาได้อยู่อาศัย จนสุดท้ายได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ด้วยความที่ว่าเขามีไหวพริบ และสติปัญญาที่ดี ดีเกินกว่าจะมาเป็นทาส

หลังจากที่ อิสป ได้รับอิสรภาพแล้ว ก็ยังได้ใช้ทักษะที่เขามีได้อย่างชาญฉลาด เพราะหลังไม่นานจากนั้นเขาก็ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ด้วยทักษะที่เขามี ด้วยการเล่านิทานจนได้ถูกเรียกตัวให้ไปทำงานอยู่ภายในราชสำนักของกษัตริย์เครซุส หลังจากที่เข้าไปทำงานภายในสำนักราชวังไม่นาน กษัตริย์เครซุสก็ได้ทรงโปรดปรานอิสปได้อย่างรวดเร็ว เพราะนอกจากการทำงานที่ขยันขันแข็งแล้ว อิสปยังสามารถมอบความสนุกสนาน ความบันเทิงเริงใจ และความเพลิดเพลินได้เป็นอย่างมาก รวมไปถึงแง่คิดในด้านต่างๆ อีกมากมาย

ต่อมาพระองค์จึงได้ส่งอิสปไปให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นราชทูตประจำเมืองหลวงของนครรัฐต่างๆ ซึ่งถือว่ามีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยที่อีสปได้ใช้นิทานของเขาในการสร้างความสำเร็จ สร้างแรงบันดาลใจ จนทำให้เขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นภายใน เมืองโครินธ์ ที่เขาใช้นิทาน และทักษะของเขาเป็นเครื่องมือในการเตือนชายเมืองถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการใช้กฎหมู่ ณ เอเธนส์ รวมไปถึงการเล่นเรื่อง กบเลือกนาย เพื่อเป็นเครื่องมือในการจูงใจให้ชาวเมืองเกิดความศรัทธาในการปกครองของปีซัสเตรตัส ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จ ได้ผลอย่างงดงาม

แต่ถึงจะประสบความสำเร็จมากมายเพียงใด แต่แล้วชีวิตอันรุ่งโรจน์ของอีสปก็เดินทางมาถึงจุดจบ เพราะหลังจากนั้นไม่นานเมื่อกษัตริย์เครซุสส่งเขาไปทำหน้าที่ ณ เมืองเดลฟิ โดยที่ในครั้งนี้อีสปได้ทำการเล่านิทานของเขาโดยการใช้สัตว์เป็นเครื่องของบอกความจริงเกี่ยวกับความไม่ยุติธรรมทางการเมืองให้ชาวเมืองได้หูตาสว่าง ซึ่งการกระทำของเขาที่ทำลงไปในครั้งนั้นส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก จนทำให้นักการเมืองแห่งเมืองเดลฟิเกิดความไม่พึงพอใจเป็นอย่างมาก ทำให้นักการเมืองเหล่านั้นหาทางแก้แค้นอีสป ด้านสารพัดที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการใส่ร้ายป้ายสี นำขันทองศักดิ์สิทธิ์ไปใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางของอิสป แล้วกล่าวหาว่าเขาเป็นคนขโมย หลังจากนั้นอีสปก็ได้ถูกตั้งข้อหาว่ามีการกระทำที่หลบหลู่ร้ายแรง ส่งผลให้เขาโดยลงโทษด้วยการประหารชีวิต โดยการถูกโยนลงสู้หน้าผาสูงจนถึงแก่ความตาย