ถ้าหากจะให้เปรียบเทียบความสวยงามของที่ จิ่วจ้ายโกว หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังประเทศจีน ให้เป็นดั่งภาพวาดชิ้นเอกชิ้นหนึ่ง คำๆ นี้คงจะไม่เกิดจริงแต่อย่างเ เพราะที่นี่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาโดยตรงธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้าหากใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะเป็นช่วงเวลาที่เหล่าใบไม้ต่างพากันไล่เปลี่ยนเป็นเฉดสีต่างๆ ที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ความสวยงามที่ตัดกับทะเลสาบสีมรกต
จะเพิ่มความสวยงามเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี และด้วยความงดงามดังกล่าว ที่เปรียบเสมือนดั่งภาพวาด จึงทำให้ จิ่วจ้ายโกว ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ถูกจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว A5 ของจีน ซึ่งถ้าหากใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่จีนสักครั้ง สถานที่แห่งนี้จะเพิ่มบรรยากาศให้ทริปการท่องเที่ยวของคุณสมบูรณ์แบบได้เป็นอย่างดี
ทำความรู้จักกับ จิ่วจ้ายโกว สถานที่ท่องเที่ยว A5 ของจีน
จิ่วจ้ายโกว หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ อุทยาแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ที่มีพื้นที่ทั้งหมดมากถึง 720 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ภายในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยมี หุบเขาจิ่วจ้ายโกว เป็นส่วนหนึ่งของภูเขา Min Mountain ตั้งอยู่บริเวณใจกลางอุทยาน ความโดดเด่นที่เต็มที่ไปด้วยธรรมชาติ เพราะพื้นป่าทั้งหมดมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก อัดแน่นไปด้วยเหล่าพืชพรรณนานาชนิด ประกอบกับทะเลสาบน้ำจืดกว่า 144 แห่ง และน้ำตกขนาดใหญ่ ความสวยงามเหล่านี้มีความโดดเด่นมากพอจนทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์กรณ์ UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1992 และ เขตสงวนชีวมณฑล เลยนั่นเอง
ชื่อของ จิ่วจ้ายโกว ถ้าหากนำมาแปลเป็นเป็นภาษาจีนจะมีความหมายว่า ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน เพราะในอดีตพื้นที่ดังกล่าวจะมีหมู้บ้านชาวทิเบตที่อาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 9 หมู่บ้าน ตั้งอยู่ริมธารน้ำเหล่านี้ เพราะเนื่องจากชาวทิเบตจะมีความเชื่อ และความศรัทธาในภูเขา และสายน้ำเป็นอย่างมาก จึงมีความเชื่อต่อกันมาว่า จิ่วจ้ายโกว เป็นดินแดนแห่งขุนเขา และธารน้ำศักดิ์สิทธิ์
สำหรับการท่องเที่ยวที่ จิ่วจ้ายโกว จะถูกแบ่งออกด้วยกันเป็น 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหนาว และฤดูร้อน โดยที่ใครที่มีความสนใจอยากจะไปเที่ยวที่ จิ่วจ้ายโกว จะสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูจะมีความสวยงาม และความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าถามว่าฤดูไหนที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากที่สุด และได้รับความนิยมมากที่สุด คำตอบก็คือ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือน ตุลาคม – พฤจิกายน เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพราะฉะนั้นถ้าหากใครที่อยากไปสัมผัสความสวยงามด้วยตัวเอง ต้องวางแผนการเดินทางให้ดีๆ
